tag:blogger.com,1999:blog-67128447768811306342024-03-12T18:24:00.165-07:00ADOLESCENT CORNER : ปัญหาสุขภาพในวัียรุ่นUnknownnoreply@blogger.comBlogger3125tag:blogger.com,1999:blog-6712844776881130634.post-32348462133198297092008-02-13T20:05:00.000-08:002008-02-13T20:17:11.204-08:00:: ปัญหาความอ้วน<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgd9pC2VgR6bGA7n_72tMU6GFIUu90LtVHgZmZ0WDkW0d44ife634OHp5Xj1H1XrIw_v914Q4k09l6N1G3HLL58eCG9eS-i_Qw6h5Gx2DZjSZkAHDiQixUQB3V0VMieyEYSDzkH1ngn6Pb-/s1600-h/fat.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5166682419364435442" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; CURSOR: hand" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgd9pC2VgR6bGA7n_72tMU6GFIUu90LtVHgZmZ0WDkW0d44ife634OHp5Xj1H1XrIw_v914Q4k09l6N1G3HLL58eCG9eS-i_Qw6h5Gx2DZjSZkAHDiQixUQB3V0VMieyEYSDzkH1ngn6Pb-/s320/fat.jpg" border="0" /></a> "<strong><span style="color:#3366ff;">โรคอ้วน"<br /></span></strong>โรคอ้วนเป็นโรคเรื้อรังที่บั่นทอนสุขภาพทั้งกายและใจ รวมทั้งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคต่างๆ มากมาย ได้แก่ โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคระบบทางเดินหายใจ โรคข้อเสื่อม และ ปัญหาทางจิตใจ โรค อ้วน เกิดตั้งแต่ในวัยเด็ก ควรป้องกันโรคนี้ตั้งแต่ในวัยเด็ก และต้องรักษาตั้งแต่เพิ่มเริ่มอ้วน มิฉะนั้นจะกลายเป็นโรคเรื้อรัง รุนแรง รักษายาก มีอันตรายต่อชีวิต<br /><br /><strong><span style="color:#3366ff;"></span></strong><br /><strong><span style="color:#3366ff;"></span></strong><br /><strong><span style="color:#3366ff;">สาเหตุของโรคอ้วน</span></strong><br />ส่วนมากมีสาเหตุจากพฤติกรรม คือ กินมากไป หรือ ออกกำลังกายน้อยไป หรือทั้งสองอย่าง พันธุกรรมอาจมีส่วนทำให้อ้วนได้ ส่วนโรคอ้วนที่มีสาเหตุจากโรคบางอย่าง เช่นโรคไทรอยด์ โรคเนื้องอกในสมอง นั้นพบได้น้อย<br />การที่จะบอกว่าเด็ก เป็นโรคอ้วนหรือไม่ สามารถประเมินจาก การวัดน้ำหนักต่อส่วนสูง เปรียบเทียบกับค่ามาตรฐานของ น้ำหนักของเด็กเพศเดียวกันที่มีส่วนสูงเท่ากัน , การคำนวณค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ที่คำนวณจาก น้ำหนักเป็นกิโลกรัมของเด็ก หารด้วย ส่วนสูงของเด็กเป็นเมตร2 ถ้ามากกว่าเปอร์เซนไทล์ ที่ 95 ถือว่าอ้วน<br /><br />วิธีการรักษาโรคอ้วน ที่ปลอดภัย มี 3 ประการที่ควรใช้ร่วมกันคือ การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ส่วนการใช้ยาและการผ่าตัด มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน และสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย<br /><strong>1. การควบคุมอาหาร<br /></strong>- กินอาหารครบทุกหมู่ตามธงโภชนาการ แต่ลดอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและไขมันมาก คือ ข้าว แป้ง น้ำตาล ไขมัน เนย กะทิ ถั่วที่ให้ไขมันมาก เช่น ถั่วลิสง ไม่กินอาหารหวาน และเครื่องดื่มที่มีรสหวาน เลือกเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันและหนัง ควรดื่มนม พร่องมันเนย หรือ นมไขมันต่ำรสจืด แทนนมวัวครบส่วน ดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำหวาน หรือน้ำอัดลม<br />- เพื่อให้ได้ใยอาหารมากขึ้น ควรกินข้าวกล้อง แทนข้าวขาว กินผักเป็นประจำทุกมือ กินผลไม้ที่ไม่หวานจัดแทนขนม<br />- กินอาหารมื้อหลัก 3 มื้อ อาหารว่าง 1-2 มื้อ ห้ามอดอาหารมื้อหลัก เพราะจะทำให้หิวจัดในมื้อถัดไป<br />- ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเกลือมาก<br /><strong>2. การออกกำลังกาย<br /></strong>ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-5 ครั้งควรลดเวลาที่นั่งๆนอนๆ อยู่หน้าจอ เช่น การดูโทรทัศน์หรือเล่นคอมพิวเตอร์เหลือไม่เกินวันละ 2 ชั่วโมง<br /><strong>3. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม</strong> <strong><br /></strong>เป็นการร่วมมือกันระหว่างผู้ปกครอง , ผู้รักษา และตัวเด็ก มีหลักการดังนี้<br />- ลดปัจจัยที่กระตุ้นให้เด็กอยากกิน เช่น อาหารที่ล่อใจเด็ก , การนั่งโทรทัศน์พร้อมกับกินขนม<br />- การให้ความรู้ทางโภชนาการที่ถูกต้องกับเด็กและผู้ปกครอง<br />- ผู้ปกครองควรปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับวัยรุ่น<br />- ผู้ปกครองควร มีการกระตุ้นให้เด็กอยากลดน้ำหนักเช่น การให้ของรางวัล<br /><br />ควรลดน้ำหนัก สัปดาห์ละ ไม่เกิน 0.5 กิโลกรัม ไม่ควรลดเร็วเกินไปเพราะจะเกิดอันตรายได้Unknownnoreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-6712844776881130634.post-55974147647756836742008-02-13T19:43:00.000-08:002008-02-13T20:04:24.312-08:00:: เรื่อง "สิวๆ"<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhFpR3IwQDJPeceo3G4A1WlL8aUu_UnI9RoLPTRqIqQvPquBBXWuupCA2KplkKzx06tFaZuE_4Sw0BfUiLq97O9is8KNrxiICb2EeqiQv0l-3jP9m9gm0QEMUxbKYeKNYjBLjwZPW-BlBpe/s1600-h/acne01.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5166677596116162018" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; CURSOR: hand" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhFpR3IwQDJPeceo3G4A1WlL8aUu_UnI9RoLPTRqIqQvPquBBXWuupCA2KplkKzx06tFaZuE_4Sw0BfUiLq97O9is8KNrxiICb2EeqiQv0l-3jP9m9gm0QEMUxbKYeKNYjBLjwZPW-BlBpe/s320/acne01.jpg" border="0" /></a> <strong><span style="color:#3333ff;">สิว (Acne)</span><br /></strong>สิวเป็นเรื่องของธรรมชาติที่พบบ่อยทุกเพศทุกวัย แต่สิวมักพบได้บ่อยในช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและจิตใจ เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมันกลายเป็นหัวสิว พันธุกรรมมีส่วนกำหนดความรุนแรงของสิวในแต่ละคน ปัจจัยที่มีผลต่อการเป็นสิว ได้แก่ รอบเดือนและความเครียด ปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด ฝุ่น ความร้อน<br /><br /><br /><blockquote></blockquote>การรักษาสิว ต้องใช้เวลาพอสมควร อาจเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน ผู้ป่วยไม่ควรซื้อยาทาหรือ ยา รับประทานเอง เพราะมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงรุนแรง และ ทำให้ผิวแพ้ ระคายเคืองง่าย<br /><span style="color:#3366ff;"><strong>ยารักษาสิว<br /></strong></span><span style="color:#000000;"><strong>1. การรักษาทั่วไป</strong><br /><br /></span><span style="color:#000000;"><blockquote>- การดูแลผิวทั่วไป ควรล้างทำความสะอาดผิวหน้า วันละ 2-3 ครั้ง<br />- ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองต่อผิวสบู่ยาที่มีส่วนผสมของยาต้านแบคทีเรีย<br />- การใช้เครื่องสำอางแต่งหน้า ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดสิว โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์ที่เป็นโลชั่น หรือ oil<br />based ก่อให้เกิดสิว มากกว่าผลิตภัณฑ์ที่เป็นเจล แป้งฝุ่นก่อให้เกิดสิวน้อยกว่าแป้งชนิดอัดแข็ง หรือแป้งผสมรองพื้น</blockquote><strong>2. ยารักษาสิว<br /></strong>2.1 ยาทาเฉพาะที่ การใช้ยาทาเพียงอย่างเดียว ใช้ในรายที่เป็นไม่รุนแรงนัก ยาทาที่ใช้ได้แก่<br />- ยาทาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุของสิวอักเสบ เช่น clindamycin,erythromycin , tetracycline ใช้ได้ผลดีกับสิวชนิดที่มีตุ่มอักเสบ<br />หรือตุ่มหนองที่เป็นไม่มากนัก<br />- ยาทา ต้านแบคทีเรีย (Benzoyl peroxide) ใช้ในสิวที่เป็นน้อยหรือปานกลางที่มีตุ่มอักเสบหรือตุ่มหนอง<br />- กรดวิตามินเอ (Retinoic acid) ใช้ในสิวที่เป็นมาก แต่ไม่มีการอักเสบ ยาตัวนี้จะทำให้หัวสิวหลุดง่ายขึ้น<br /><br />2.2 ยากิน ใช้ในกรณีที่ทายาแล้วไม่ได้ผล<br />- ยาแก้อักเสบ เช่น เตตราซัยคลิน นิยมใช้ร่วมกับยากิน<br />- อนุพันธ์ของวิตามินเอ (Isoretinoin) ใช้รักษาสิวชนิดรุนแรงเช่นสิวหัวช้าง ยาตัวนี้ สามารถสั่งโดยแพทย์เท่านั้น ผลข้างเคียงที่สำคัญมากคือ<br />ทำให้เกิดความพิการของทารกในครรภ์ได้<br /></span>Unknownnoreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-6712844776881130634.post-43012956991093849572008-02-07T22:53:00.000-08:002008-02-13T20:03:49.548-08:00:: ธรรมชาติของวัยรุ่นธรรมชาติของ “วัยรุ่น” (วุ่นอย่างไร...?)<br /><br />ตามหลักจิตวิทยา เราแบ่งวัยรุ่นออกเป็น 3 ระยะ คือ<br />- วัยรุ่นตอนต้น (11-13 ปี)<br />- วัยรุ่นตอนกลาง (14-16 ปี)<br />- วัยรุ่นตอนปลาย (17-20 ปี)<br /><br />ลักษณะของวัยรุ่นที่ผู้ใหญ่ควรเข้าใจ คือ: -<br /><span style="FONT-WEIGHT: bold">1. การปรับตัวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย</span><br /><div style="TEXT-ALIGN: left">แม้ว่า วัยรุ่นจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายของตนเอง จากโรงเรียน จากแหล่งความรู้ต่างๆ แต่วัยรุ่นยังมีความกังวลอยู่ ความกังวลที่เกิดขึ้นมักเป็นความกังวล ในด้านความเหมือนและความไม่เหมือน ความแตกต่างและไม่แตกต่างไปจากกลุ่มเพื่อน ความกังวลเกี่ยวกับร่างกายของตนเองนั้น แม้วัยรุ่นจะมีความกังวลแต่จะไม่มากเท่ากับความกังวล ในเรื่องของความสมบูรณ์ของร่างกายว่าสมกับความเป็นหนุ่มสาวหรือไม่ นอกจากนี้ยังสนใจว่า การเปลี่ยนแปลงของร่างกายนั้นทำให้ตนเองมีความงดงามดีหรือไม่ดีอย่างไร<br /></div><br /><div style="TEXT-ALIGN: left">ดังนั้นอะไรที่เสริมให้หล่อ เสริมให้สวย เสริมให้ดูดี วัยรุ่นจะ ใฝ่ หามาใช้ ให้ตนเองรู้สึกสมบูรณ์ขึ้น เช่นหาวิธีแก้ปัญหาเรื่องสิว เรื่องหน้ามัน หน้าขาว เรื่องกลิ่นหอม เครื่องประดับต่างๆ<br /></div><br /><span style="FONT-WEIGHT: bold">2. การแสวงหาบทบาททางเพศของตนเอง</span><br /><div style="TEXT-ALIGN: left">เนื่องจากวัยรุ่นมีการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย และจิตใจ ประกอบกับความคิดด้านวัฒนธรรมยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ จึงทำให้วัยรุ่นคิดว่าตนเองมีพลัง มีศักยภาพ และโดยลักษณะของวัยรุ่น ทีมีแนวโน้มที่จะไม่เชื่อฟังคำแนะนำ ไม่คิดถึงเรื่องคุมกำเนิด ทำให้วัยรุ่นเข้าไปสู่เพศสัมพันธ์ หรือปัญหาต่างๆโดยที่ตนเองไม่ตั้งใจ<br /></div><br /><br /><br /><span style="FONT-WEIGHT: bold">3. ความต้องการเป็นอิสระจากพ่อแม่และผู้ใหญ่ </span><br /><div style="TEXT-ALIGN: left">เพื่อพัฒนาไปสู่ภาวะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น มีความรับผิดชอบตนเอง มีความต้องการได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มเพื่อนมากกว่าที่จะพึ่งผู้ปกครองหรือครูอาจารย์ จนทำให้พฤติกรรมที่แสดงออกมาเป็นแบบต่อต้านผู้ใหญ่ ทั้งๆ ที่ในใจของเขา ยังยอมรับฟัง ยังผูกพัน ยังต้องการและรู้สึกพึ่งพาผู้ใหญ่อยู่<br /></div><br /><span style="FONT-WEIGHT: bold">4.อารมณ์ที่ผันแปรง่าย </span><br /><div style="TEXT-ALIGN: left">วัยรุ่นจะมีอารมณ์ที่ผันแปรง่าย ขึ้นๆลงๆ มีลักษณะอารมณ์แบบที่เรียกว่า สองจิต สองใจ อ่อนไหวต่อแรงกระตุ้นทั้งจากสิ่งแวดล้อมภายนอก และการเปลี่ยนแปลงของภายในจิตใจเอง การควบคุมอารมณ์ยังไม่ดี ทำให้วัยรุ่นมีความกังวลง่าย โกรธง่าย หงุดหงิดง่าย โกรธเมื่อถูกล้อเลียน โกรธเมื่อถูกลงโทษที่ไม่เป็นธรรม โกรธเมื่อมีคนปฏิบัติกับเขาเหมือนเด็กๆ โกรธเมื่อทำกิจกรรมแล้วเกิดการล้มเหลว โกรธถ้าถูกขัดขวางจากผู้ปกครอง<br />วัยรุ่นมักมีความกังวลต่อการเรียน ต่อการปรากฏกายในที่สาธารณะ ต่อการสร้างสัมพันธ์กับเพื่อนต่างเพศ เมื่อวัยรุ่นโกรธ หรือหงุดหงิด อาจจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ อารมณ์รักในวัยรุ่นจะแตกต่างจากเด็ก เพราะเด็กจะรักและพึ่งพามารดา และบิดาของตนมาก<br />แต่ในวัยรุ่น ความรักของเขาจะเปลี่ยนจากรักมารดาและบิดา (ซึ่งจริงๆยังรักอยู่) ไปเป็นคนรักที่เขายกย่อง<br /></div><br /><span style="FONT-WEIGHT: bold">5. ความอยากรู้อยากเห็น </span><br /><div style="TEXT-ALIGN: left">เป็นอารมณ์ ที่เด่นชัดมากในวัยรุ่น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้วัยรุ่นเกิดการเรียนรู้ โดยเฉพาะเรื่องเพศ วัยรุ่นอยากรู้อยากเห็นมาก และประกอบกับมีความรู้สึกทางเพศไวมาก จึงทำให้วัยรุ่นหมกมุ่นเรื่องนี้ได้ง่าย<br /></div><br /><span style="FONT-WEIGHT: bold">6. มีการพัฒนาทางสติปัญญามาก</span><br /><div style="TEXT-ALIGN: left">วัยเด็กและวัยรุ่นเป็นวัยที่มีอัตราพัฒนาการและการเติบโตของสติปัญญามาก จึงเป็นวัยที่เหมาะจะเรียนรู้สิ่งต่างๆ วัยรุ่นเป็นวัยที่มีความคิดนามธรรม มีเหตุผล และ ช่างคิด ช่างวิพากษ์วิจารณ์ วิเคราะห์ มีสายตายาวไกลขึ้น ทำให้มีโอกาสโต้แย้งผู้ใหญ่อยู่เรื่อยๆ<br />แต่อย่างไรก็ตาม วัยรุ่น ยังขาดประสบการณ์ ชีวิต ดังนั้นเขาต้องอาศัยการแนะแนว และแบบอย่างจากผู้ใหญ่อยู่อย่างต่อเนื่อง<br /></div><br /><span style="FONT-WEIGHT: bold">7. การแสวงหาเอกลักษณ์ของตนเอง</span><br /><div style="TEXT-ALIGN: left">เพื่อนจะมีบทบาทสำคัญอย่างมาก วัยรุ่นจะตระหนัก ในความสำคัญของกลุ่มและของเพื่อน พยายามทำตนให้เป็นที่ยอมรับของเพื่อน เข้าร่วมสังสรรค์กับกลุ่ม ต้องการเป็นที่ยอมรับของกลุ่ม การที่ผู้ใหญ่เข้าใจ ลักษณะของวัยรุ่นดังกล่าว จะทำให้ วัยรุ่น พัฒนาไปสู่การเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต</div>Unknownnoreply@blogger.com0