วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

:: เรื่อง "สิวๆ"

สิว (Acne)
สิวเป็นเรื่องของธรรมชาติที่พบบ่อยทุกเพศทุกวัย แต่สิวมักพบได้บ่อยในช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและจิตใจ เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมันกลายเป็นหัวสิว พันธุกรรมมีส่วนกำหนดความรุนแรงของสิวในแต่ละคน ปัจจัยที่มีผลต่อการเป็นสิว ได้แก่ รอบเดือนและความเครียด ปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด ฝุ่น ความร้อน


การรักษาสิว ต้องใช้เวลาพอสมควร อาจเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน ผู้ป่วยไม่ควรซื้อยาทาหรือ ยา รับประทานเอง เพราะมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงรุนแรง และ ทำให้ผิวแพ้ ระคายเคืองง่าย
ยารักษาสิว
1. การรักษาทั่วไป

- การดูแลผิวทั่วไป ควรล้างทำความสะอาดผิวหน้า วันละ 2-3 ครั้ง
- ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองต่อผิวสบู่ยาที่มีส่วนผสมของยาต้านแบคทีเรีย
- การใช้เครื่องสำอางแต่งหน้า ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดสิว โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์ที่เป็นโลชั่น หรือ oil
based ก่อให้เกิดสิว มากกว่าผลิตภัณฑ์ที่เป็นเจล แป้งฝุ่นก่อให้เกิดสิวน้อยกว่าแป้งชนิดอัดแข็ง หรือแป้งผสมรองพื้น
2. ยารักษาสิว
2.1 ยาทาเฉพาะที่ การใช้ยาทาเพียงอย่างเดียว ใช้ในรายที่เป็นไม่รุนแรงนัก ยาทาที่ใช้ได้แก่
- ยาทาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุของสิวอักเสบ เช่น clindamycin,erythromycin , tetracycline ใช้ได้ผลดีกับสิวชนิดที่มีตุ่มอักเสบ
หรือตุ่มหนองที่เป็นไม่มากนัก
- ยาทา ต้านแบคทีเรีย (Benzoyl peroxide) ใช้ในสิวที่เป็นน้อยหรือปานกลางที่มีตุ่มอักเสบหรือตุ่มหนอง
- กรดวิตามินเอ (Retinoic acid) ใช้ในสิวที่เป็นมาก แต่ไม่มีการอักเสบ ยาตัวนี้จะทำให้หัวสิวหลุดง่ายขึ้น

2.2 ยากิน ใช้ในกรณีที่ทายาแล้วไม่ได้ผล
- ยาแก้อักเสบ เช่น เตตราซัยคลิน นิยมใช้ร่วมกับยากิน
- อนุพันธ์ของวิตามินเอ (Isoretinoin) ใช้รักษาสิวชนิดรุนแรงเช่นสิวหัวช้าง ยาตัวนี้ สามารถสั่งโดยแพทย์เท่านั้น ผลข้างเคียงที่สำคัญมากคือ
ทำให้เกิดความพิการของทารกในครรภ์ได้

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เป็นสิว คลายเครียดด้วย เกมส์บีบสิว